เมื่อวานการสอนเริ่มตั้งแต่ผมเสร็จจากงานที่นาตอนเย็นๆ โดยเรียนควบคู่กันไปทั้งสองกลุ่ม
กลุ่มที่หนึ่ง มือใหม่เน้นเทคนิค และวัสดุการเรียน
กลุ่มที่สอง กลุ่มที่มีพระแท้ และพอดูเป็นบ้างแล้ว เน้นการดูพระแท้ดูยาก จากความหลากหลายของพระที่เป็นจริง ที่แตกต่างจากพระที่คนบางกลุ่มยกขึ้นมาเป็นพุทธพานิช ที่ทำให้หายาก และมีราคาแพงมาก ที่เราต้องหลบมาหาตามหลักการที่จะหาได้ง่ายกว่า
ประเด็นใหญ่ ที่ผมสงสัยก็คือ ผมอยากทราบว่าทำไมยังแยกเก๊แท้กันไม่ได้ ตัวอย่างชัดๆมีให้ดู อยากเห็นของจริงก็มาที่บ้านได้ครับ หรือจะให้ไปสอนถึงที่ก็จัดกลุ่มมาได้
หลักการผมก็พยายามทำให้ง่ายที่สุดในทุกด้านแล้ว ถ้าท่านยังไม่บอกว่าติดตรงไหนผมก็หาทางช่วยได้ยากมากครับ
การส่องเนื้อผงก็ใช้หลัก 3+2 ดูทีละข้อ วนไปวนมาสักสองสามรอบ อย่ามักง่าย อย่าด่วนสรุป ตั้งอิ้ว คือน้ำมันที่ขึ้นคู่กับปูนดิบ จะแพร่กระจายเป็นฟิล์ม
การส่องเนื้อดินก็ดูเนื้อทั้ง 8 ชั้น ครบแล้วค่อยหยิบ อย่างน้อยเกินครึ่งก็ยังดี ไม่ถึงครึ่งหรือไม่ครบอย่าไปลุ้นให้เสียเวลา ส่วนใหญ่พระเก๊อยู่แล้ว
การส่องพระเนื้อชินก็ดูผิว 3 ชั้น คือ รัก สนิมใต้และบนรัก มีครบสามชั้นก็แท้ ไม่ครบก็วาง เท่านั้นเอง
คนที่พลาดเพราะเล็งผลเลิศ หวังฟลุคมากเกินไป
การเริ่มที่พระเก่าๆตามตำรา ที่เก๊เพียบ หยิบมาพันองค์ยังไม่ฟลุคเลยครับ
แต่พระใหม่ๆ ไม่เกินร้อยองค์ก็ฟลุคได้ แล้วเราก็เริ่มเรียนจากความฟลุคนั้นได้อย่างรวดเร็ว พอพระเก่าๆฟลุคยาก เลยเริ่มไม่ได้สักที
ในกรณีพระเนื้อผง ผมจึงหันมาเรียนจากเปลือกหอยง่ายกว่า ไม่รอฟลุค
มีคนส่งรูปเปลือกหอยมาให้ดู ถามว่าใช้ได้ไหม ผมเลยตอบว่า ได้หรือไม่ อยู่ที่ตาท่าน
ถ้ามองเห็นหลัก 3+2 ก็ใช้ได้ ถ้ามองไม่เห็นก็ใช้ไม่ได้ โดยต้องลองถ่ายภาพชัดๆ ถ้าถ่ายภาพมามัวๆ ใครก็ช่วยท่านไม่ได้ เน้นหลัก 3+2 ให้เต็มจอเลย ถ่ายหลายๆจุดด้วย แล้วส่งมาดูกัน ทั้งนี้เพราะ เปลือกหอยหาง่ายและดูง่ายกว่าเยอะ วัดระฆัง 118 ปีก็ยังดูยากกว่าเปลือกหอย
การถ่ายภาพเบลอร์ ๆ ไป ท่านมองไม่เห็นจากภาพหรอกครับ ดูของจริงเลย ลองส่องดูเองเห็นอย่างที่ผมถ่ายให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ท่านไม่ถ่ายภาพให้ผม เพราะไปใช้กล้องมือถือ ของเด็กเล่น ผมก็เลยช่วยท่านไม่ได้มากกว่านี้
ถ้าไม่กล้าลงทุนซื้อกล้องสักสี่ห้าพันบาท ก็ไม่ควรเข้ามาวงการนี้ครับ อันตราย
การใช้กล้องถ่ายรูปช่วยตัดสินได้ดีมากครับ กล้องมือถือแพงขนาดไหนก็มาตายที่ขนาดเลนส์ ใช้ถ่ายเล่นๆได้เท่านั้น
กล้องมือถือ ใช้ได้แค่ระดับเก๊ตาเปล่าเท่านั้น พอพระระดับฝีมือ หลงเลยครับ
แม้เปลือกหอยน่าจะดี แต่การถ่ายรูปยังใช้ไม่ได้ ก็จะยังเรียนยาก
ในกลุ่มสอง ผมเน้นการชี้ให้เข้าใจหลักการดูเนื้อผง “แสนล้านเนื้อ” อยู่ในหลักข้อที่ 8 เทคนิคการอ่านเนื้อ พระเนื้อผง นี่ยังไม่รวมความแตกต่างของเปลือกหอยที่นำมาใช้นะครับ
ด้วยปัจจัย 11 ประการ คือ
1. ระดับปูนสุก 2. ระดับปูนดิบ 3. ระดับตังอิ้ว 4. ความหยาบละเอียดของการบดมวลสาร 5. ความชื้นของพระขณะกดพิมพ์ 6. ความหนาของเนื้อ 7. การลงรักแบบต่างๆ 8. สภาพความชื้นแวดล้อมที่พระอยู่ 9. สภาพการใช้บ่อย/ไม่บ่อย 10. การล้าง/ไม่ล้างพระ 11. การใส่ตลับ
ผมบอกหลักการนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ คงคิดว่าผมพูดเล่นมั้งครับ
มิใช่ว่าเปลือกหอยทุกชิ้นจะเป็น "ครู" ให้เราได้นะครับ แต่ต้องถ่ายรูปชัดๆมาเลย
ถ้าไม่ชัดมีสองทางเลือก โยนเปลือกหอยทิ้ง หรือโยนกล้องทิ้ง นี่ ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ
เพราะกล้องที่ถ่ายภาพไม่ชัด ย่อมไม่มีประโยชน์ในงานนี้
บางคนอยากเล่นพระ แต่ก็ดันทุรังใช้กล้องมือถือ แล้วก็เล่นแต่พระเก๊ คุ้มตรงไหนครับ
ผมบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อ ว่ากล้องสำคัญ ช่วยเราดูภาพฟันธงได้ชัดๆ สื่อสารได้ชัดๆ
รูปเม็ดพระธาตุก็คงไม่มีใครเห็น
หรือถ่ายบ่อน้ำตางอกใหม่ก็คงไม่เห็น
เห็นดังนี้แล้วจึงมั่นใจว่าพระแท้แน่นอน ใครจะว่ายังไงก็ไม่คลอนแคลน
ถ้ากล้องไม่ดี ผมคงพลาดไปหลายองค์ ทั้งตีเก๊พระแท้ และคิดว่าพระเก๊เป็นพระแท้ และการเรียนรู้คงช้า เพราะดูภาพไม่ชัดพอ ใช้ฟังชั่น มาโคร 1 ซม ใช้มือจับปรับแสง จะดีที่สุด
คุยหลุดไปเรื่องกล้องตั้งนานเลย
ทั้งๆที่ ผมกำลังจะเปิดเรื่อง แสนล้านเนื้อ แค่ความเป็นไปได้เท่านั้น และพระที่เราจะเจอ ก็มักจะอยู่ "ชายขอบ" ทั้งนั้นครับ คือพระที่เซียนไม่ปั่น เพราะอาจจะไม่สวย หรือเขาไม่มี บางเนื้ออาจจะไม่มีอยู่จริง เพราะคนทำไม่น่าจะพลาดขนาดนั้น ดังนั้นเราต้องจินตนาการตามหลักการ และตัวอย่างนำทาง
คำว่า ดูยาก ในกรณีนี้ก็คือ ไม่เคยเห็นมาก่อน
บางทีได้มาจากการหยิบแบบ "มั่ว" มาคัดเอาภายหลัง เช่นองค์ที่ ไม่มีรัก มีแต่ฝุ่นหิ้งรอบองค์ทุกซอก
มีคำถามว่า พระปูนน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าพระพลาสติกนะครับ หยิบชินแล้วจะรู้
มือใหม่ก็จะยากหน่อย บางๆ แต่หนัก เหมือนแผ่นหิน
น้ำหนักต่างกันสามเท่าครับ ตามหลักทางเคมี
แต่ถ้าดูน้ำหนัก และมวลสารประกอบ ก็จะช่วยได้มากครับ
ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกประเภท ทุกระดับ ทุกท่านครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น