วันนี้ผมมีกิจต้องเดินทางไปงานแต่งลูกชายของเพื่อนที่อุดรธานี
แต่ก็เปิดช่องให้นักเรียนเข้ามาฝากคำถามไว้ในไลน์
ขณะอยู่ในงานเลี้ยง ผมก็แอบดูเป็นระยะ เผื่อจำเป็นจะต้องตอบคำถามแบบทันท่วงที
แต่ก็ไม่มีอะไรด่วนมาก มีเพียงคำถามเรื่องการดูรูปหล่อ ลพ ทวด 2505 ว่ามีหลักอะไรบ้าง
ด้วยความที่ผมยังไม่ได้เตรียมวัสดุการสอนไว้ในโนท ผมเลยตอบได้เฉพาะหลักการ ว่า.......
ให้ดูเนื้อเก่าลึก สนิมลึก ผิวนุ่ม ไม่มีความคม พิมพ์คมชัด มีผิวไฟ มีคราบขี้เบ้าแน่น เนียน ฯลฯ
ลักษณะสนิมลึกนั้น รวมสนิมน้ำหมากและสนิมหยก ที่ถ้าจะให้ชัดต้องมาดูของจริง รูปจะถ่ายไม่ค่อยชัด โดยเฉพาะท่านที่ยังดูรูปไม่เป็น
จึงขอแนะนำให้ดูที่บ้าน หรือถ้าดูรูปเป็น ดูในเฟสก็ได้ แต่จะสู้ส่ององค์จริงไม่ได้ครับ
พอมาถึงบ้านก็รีบถามว่า.... ใครยังรอถามอะไรไหมครับ
สำหรับเนื้อ ลพ ทวด จะจัดสอนให้หลังจากประเมินความต้องการของนักเรียนมากพอ ที่ตอนนี้ ผมก็มีไม่มาก สักสิบองค์ได้ ติดมากับพระเหมา ไม่ได้ตั้งใจหยิบ
เรื่อง ลพ ทวด เรียนเดี่ยวๆง่ายกว่า เพราะคนสนใจน้อยครับ ในกลุ่มเรียนเดิม มีคนสนใจไม่เกินสามคน และไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่ครับ แต่คนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งหลุดไปเล่นเหรียญไปเลย เขาว่าเล่นง่าย แต่ผมว่าเล่นยาก มูลค่าเพิ่มก็น้อย ผมเลยไม่เล่นครับ เท่าที่ผมตามดูนะครับ เหรียญแท้ยาก เก๊ง่าย ตรงกันข้ามกับ ดิน ชิน ผง แท้ง่าย เก๊ยาก กว่ากันเยอะเลย
ในระหว่างนั้น ก็มีคำถามว่า ขี้เบ้า คือ อะไร
ที่แสดงว่าคนถามมาผิดสายแน่ๆ เพราะเป็นคำเรียกพื้นฐานมากๆ สำหรบสายที่เล่น “รูปหล่อ”
ขี้เบ้า ก็แค่เศษวัสดุไหม้ติดกับเนื้อพระ
ที่แสดงว่าท่านถามข้ามชุดความรู้กัน
ถ้าท่านที่เล่นพระรูปหล่อค่อยมาสนใจ ท่านเล่นพระกรุ อย่าถามเลยครับ คนละชุดความรู้กัน ตอบไปก็เข้าใจยากครับ
แค่คำถามผมก็รู้แล้วว่า ท่านผู้ถามไม่เล่นพระรูปหล่อ
ย้อนกลับมาวิเคราะห์สาเหตุที่ไม่ค่อยมีคำถามจากนักเรียนนั้น ผมเดาว่า ยังไม่ค่อยเดินตลาดกัน คนที่เดินตลาดบ่อยๆ คำถามคงจะเยอะแน่ๆ
อย่างผมนี่ พูดจริงๆ มีคำถามมากๆๆๆๆๆๆ แต่ผมไม่รู้จะถามใคร เลยต้องค่อยๆหาคำตอบเอง โดยการเดินตลาดทุกวัน
ผมจึงเรียนช้า กว่าจะผ่านแต่ละเนื้อก็หลายวัน บางทีเป็นเดือน อย่างพระสมเด็จเนื้อผงนี่หลายเดือนเลย อะไรที่คิดไม่ออกจะรอไว้ก่อน หาของได้แล้วค่อยมาคิดต่อ
คนจำนวนมาก ถ้าไม่ตั้งคำถามเอง มักจะได้คำตอบไม่ค่อยตรงประเด็นความสนใจครับ
ที่จริงผมก็เน้นช่วยคนที่มีศักยภาพมากกว่า ใครที่ไม่สะดวกผมก็ไม่แนะนำให้มาเสียเวลาตรงนี้ครับ แต่พอผมบอกไปว่าควรเลิก เหมือนกับผมไปว่า จึงมีไม่ถึงครึ่งที่ยอมถอยตามคำแนะนำของผม จึงมีคนจำนวนมาก ไม่เรียน แต่ก็ไม่ถอย ที่เป็นกลุ่มที่ผมเป็นห่วงมากๆครับ
ตัวผมเองที่เดินได้อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะตั้งใจเรียน และ "เดินเร็ว" เป็นหลัก ถ้าเดินช้า เหมือนบางท่าน น่าจะมอดไหม้ไปในระบบตลาดพระนานแล้ว ผมจึงอยากเห็นทุกคนก้าวหน้าตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก และถ้าไม่ถนัดควรจะไปเลือกทางอื่นๆ ที่ง่าย และดีกว่าครับ
นี่คือคำแนะนำจากประสบการณ์จริงๆ ตรงๆ ไม่ประชดใคร ในประเด็นใดทั้งสิ้น
ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกท่านครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น