การพิจารณาพระประเภทพระกรุเนื้อชิน
การพิจารณาพระประเภทพระกรุเนื้อชิน
พระกรุเนื้อชินแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆดังนี้
1. ชินเขียว-สนิมไข เช่น พระหูยานชินเขียว
2. ชินเงินแก่เงิน-สนิมตีนกา เช่น พระกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา
3. ชินงินแก่ตะกั่ว เช่น พระกำแพงขาว กำแพงเพชร
4. ตะกั่ว-สนิมแดง เช่น พระร่วงหลังรางปืน สุโขทัย
พระชินเขียวเป็นพระที่นิยมเล่นกันน้อยในปัจจุบันนี้ คงนิยมกันในส่วนพระชินเงินและพระตะกั่วสนิมแดง ซึ่งยังคงมาแรงในค่านิยมปัจจุบัน
แนวทางการศึกษาพระเนื้อชิน
ใช้หลักการมาตรฐานของการศึกษาพระเครื่องทั่วไปคือ
พิมพ์ต้องถูกต้อง เนื้อต้องถูกต้อง และต้องมีความเก่าตามอายุพระ โดยศึกษาตามขั้นตอนคือ
1. พิมพ์ พระ พระเนื้อชินแต่ละกรุนั้น จะมีแม่พิมพ์เฉพาะแต่ละกรุนั้นๆ ฉะนั้นก่อนอื่นจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนว่า พระที่ขึ้นแต่ละกนุนั้นมีกี่พิมพ์ กี่ชนิด อย่างไรบ้าง เช่น
พระหูยาน ลพบุรี แบ่งเป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก เป็นต้น
พระเนื้อชินที่ขึ้นการกรุเดียวกัน ก็จะมีรูปร่างแบบพิมพ์ที่เหมือนกัน ถึงแม้จะไม่เหมือนเหรียญปั้มรุ่นใหม่ก็ตาม แต่อย่างไรส่วนใหญ่ของพิมพ์นั้นต้องเหมือนจะต่างกันไดเฉพาะส่วนที่เป็นผลมา จากการเทโลหะ เช่น รอยเทโลหะไม่เต็มแม่พิมพ์หรือเนื้อปะเกินในแม่พิมพ์เป็นต้น
2. พระเนื้อชิน จะมีส่วนประกอบหลักคือ ตะกั่วผสมกับโลหะต่างๆ เช่น เงิน, สังกะสี หรือแร่พลวงเป็นต้น เพราะฉะนั้นเนิ้อชินของแต่ละกรุก็จะมีลักษณะของเนื้อชินไม่เหมือนกัน เช่น กรุวัดราชบูรณะเป็นชินเงินแก่เงินผิวจะเป็นปรอทขาวเคลือบอยู่ 1 ชั้น บนผิวในองค์พระที่สวยเหมือนพระที่เทใหม่ๆ แต่ถ้าพิจารณาดูให้ดีก็จะมีความแห้งในผิวปรอทนั้นๆ หรือพระชินราชใบเสมา พิษณุโลก ก็จะเป็นชินแก่ตะกั่วเป็นต้น
3. อายุ ความเก่า พระกรุเนื่องจากสร้างมานับร้อยปี เพราะฉะนั้นทั่วๆองค์พระก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างเป็นธรรมชาติ มีรอยปริระเบิดจากภายในซึ่งในพระเก๊จะทำไม่ได้ เนื่องจากอายุไม่ถึงนั้นเอง
จะเห็นว่าการศึกษาพิจารณาพระเนื้อชินนั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยใช้หลักการเดียวกันคือ "พิมพ์ถูก เนื้อใช่ มีอายุความเก่า"
ข้อควรระวังในการศึกษาสะสมพระกรุเนื้อชิน
ใน การศึกษาพระกรุเนื้อชินนั้น ไม่ใช่เพียง "พิมพ์ถูก เนื้อใช่ ความเก่าใช่" แต่อย่างเดียวก็หาไม่ กลับจะต้องระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ให้แม่นในใจต่อมา "ห้ามลืมเด็ดขาด"
1. พระแท้แต่ผิดกรุ เพราะพิมพ์เดียวกัน หรือคล้ายกัน ทำให้เช่าผิดราคาได้ เช่น พระพุทธชินราชใบเสมา จ.พิษณุโลก กับ สวรรคโลก เป็นต้น
2. พระแท้ แต่หักชำรุด โดยเฉพาะพระหักคอ แต่ซ่อมไว้ดี ขอให้เพื่อนๆ พิจารณาบริเวณคอทุกครั้งด้วยครับ
3. พระแท้ไม่หักแต่ซ่อมเสริม เช่นพระเทไม่เต็มพิมพ์ พระแต่ง การซ่อมจะทำให้พระสวยขึ้น แต่ราคาจะไม่เท่าพระสภาพเดิมๆ และสวยครับ
4. พระแท้ ถูกกรุ ถูกพิมพ์ แต่ผิดราคาสูงเกินไป
แนวทางดูธรรมธาติความเก่าของพระเนื้อชิน
1. พระ เนื้อชิน ถ้าเป็นพระสวย จะเห็นคราบปรอทคลุมองค์พระทั้งองค์ โดยเฉพาะด้านหน้า แต่คราบจะไม่เสมอกันทั้งองค์ ดูเผินๆ เหมือนพระใหม่แต่หากส่องดูจะพบว่าปรอทมีความแห้งไม่แวววาวเหมือนของใหม่ และควรจะมีรอยปริรานหรือรอยระเบิดจากสนิมชินเงินบริเวณพื้นผิวองค์ด้านหน้า หรือด้านหลัง ซึ่งจะมีทุกองค์ไม่มากก็น้อย ส่วนพระใช้ช้ำ บนพื้นผิวที่ถูกสัมผัสมากๆ ก็จะมีลักษณะแวววาวหม่นๆ ของตะกั่วผสมเงิน จะพบปรอทเล็กน้อยตามซอกองค์พระ มักจะพบรอยปริรานและรอยระเบิดผุจากสนิมตีนกาเสมอ
2. พระ ชินแก่ตะกั่ว พระชินแก่ตะกั่วมักจะไม่มีรอยปริรานหรือระเบิดของชินให้เห็นเนื้อจากตะกั่ว มีความอ่อนตัวอยู่ แต่จะพบคราบสนิมชินตะกั่วเป็นคราบดำๆ อยู่ตามซอกต่างๆ ขององค์พระ ส่วนบริเวณที่มีการสัมผัสมากจะคล้ายตะกั่ว
3. พระชินเขียว พระชินเขียวที่มีอายุเก่าแก่จะขึ้นไขคล้ายไข่แมงดาไขจะมีความมันชื้นอยู่ในตัวไม่แห้ง
4. พระ ตะกั่วสนิมแดง พระเนื้อตะกั่วเมื่ออยู่ในกรุที่มีความร้อนชื้นเป็นเวลาหลายร้อยปีจะเกิด สนิมตะกั่วสีแดงขึ้นและคลุมด้วยคราบไขคล้ายหินปูนอีกชั้นหนึ่งเมื่อล้าง คราบหินปูนออกด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง ก็จะเห็นผิวสนิมแดงที่เป็นธรรมชาติ คือ ปริราน เหมือนใยแมงมุมทั่วๆ ทั้งองค์พระที่เป็นสนิมแดงนั้นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น