วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บทเรียนจากตลาดพระเครื่อง: เศรษฐกิจตกสะเก็ด พระเครื่องแท้ๆแตกรัง

ในระบบของตลาดใหญ่ก็ "อั้น" เหมือนกัน ด้วยผู้ซื้อต่อในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้มีน้อยลง ของก็ยังมีมาก ที่ผมได้ยินมาว่า ในรอบปีที่ผ่านมา พระราคาหลักล้านเปลี่ยนมือเพียงองค์เดียว หลักแสน หลักหมื่นนิ่งสนิท ถ้าจะปล่อยต้องลดลงมาหลักพัน
ในระยะสามสี่เดือนที่ผ่านมา ผมเริ่มสังเกตว่าพระเครื่องแท้ๆ เข้ามาในตลาดค่อนข้างมาก

ในระยะแรกๆ ผมยังคิดว่าเป็นแค่เหตุการณ์เฉพาะบางวัน ที่มีนักแลกพระ "โชคดี" ไปแลกมาได้ ซึ่งก็มีส่วนถูก แต่ถูกเพียงครึ่งเดียว

ส่วนที่ถูกก็คือ การแลกพระทำได้ง่ายขึ้น เพราะ ในสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง คนพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง และพระเครื่องก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้มีเงินเข้ามาในระบบ โดยการตั้งเงื่อนไขในการแลกว่า ต้องนำพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่งมาแลก พร้อมแถมเงิน แล้วแต่จะต่อรองกันได้

ลักษณะการแลกพระนี้เป็นวิธีการปกติ และทำเป็นปกติ แต่กิจกรรมดังกล่าวจะเกิดได้ง่ายขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ดนี้

ดังที่ผมได้สรุปบทเรียนไว้ในเรื่อง "พระเครื่องแท้ๆมาจากไหน"

จากการสอบถามแผงพระ ผมยังพบว่า ในระยะนี้ ยังมีนักสะสมพระจำนวนหนึ่ง ได้ใช้พระเครื่องเป็นทางบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจของตนเอง

โดยการติดต่อหรือไหว้วานคนที่รู้จักเป็นตัวกลางรับพระเครื่องไปปล่อยแบบ "วันต่อวัน" แล้วแต่ความจำเป็นในการใช้เงิน

เมื่อสถานการณ์เริ่มมีปัญหามากขึ้น จำนวนคนที่ทำเช่นนี้ ก็มีมากขึ้น จนเกิดการแข่งขันกันในที และอำนาจต่อรองไปตกอยู่กับคนกลาง และผู้รับซื้อต่อ

ในช่วงแรกๆ หรือในสภาวะปกตินั้น การปล่อยพระเครื่องแบบนี้ จะมีน้อย จึงทำให้ราคาสูง และเจ้าของพระจะกำหนดราคาได้ง่าย ที่อาจถือว่าพอเล่นตัวได้ ทำให้ราคาอยู่ที่หลักพันปลายๆ หรือหลักหมื่นต้นๆ

แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่หลักพันต้นๆเท่านั้น เพราะยังต้องไปแข่งกับพระแลกมาในราคาหลักร้อยต้นๆ

ผมเคยคิดว่านักสะสมพระเหล่านั้น จะมีโอกาสไปขายกับตลาดใหญ่ ที่ให้ราคาดีกว่า ที่เรียกว่า "ราคาปลาย"

แต่เมื่อสืบไป ก็พบว่า "ราคาปลาย" นั้น มักเป็นราคา "จำหน่ายออกจากร้าน" ไม่ใช่ "ราคาซื้อเข้าร้าน" จึงเป็นเรื่องของนักธุรกิจพระเครื่องเขาคุยกัน มากกว่าที่คนจำหน่ายพระธรรมดาทั่วไป จะเอื้อมถึง

และในระบบของตลาดใหญ่ก็ "อั้น" เหมือนกัน ด้วยผู้ซื้อต่อในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้มีน้อยลง ของก็ยังมีมาก ที่ผมได้ยินมาว่า ในรอบปีที่ผ่านมา พระราคาหลักล้านเปลี่ยนมือเพียงองค์เดียว หลักแสน หลักหมื่นนิ่งสนิท ถ้าจะปล่อยต้องลดลงมาหลักพัน

ดังนั้นร้านค้าพระเครื่องจึงต้องเน้นบีบต้นทุนให้ต่ำ ทำให้การขายของนักสะสมดังกล่าวทำได้ยาก นอกจากจะต้องไป "ลุ้น" ให้โดนร้านต่างๆ รวมหัวกัน "ตีเก๊" ให้เสียความรู้สึก ตามสไตล์ของนักซื้อพระเข้าร้าน (เพื่อให้ราคาถูกแบบพระปลอม) แล้ว ยังอาจไม่มีเวลาที่จะทำกิจกรรมดังกล่าว เพราะต้องทำมาหากินอยู่ จึงทำให้นักสะสมเหล่านั้นต้องหันมาพึ่งคนกลางในท้องถิ่น

คนกลางในท้องถิ่นก็จำเป็นต้องประเมินกำลังของผู้ซื้อ เพื่อให้จำหน่ายได้จริง ตัวเองจะไม่เสียเวลาเปล่า จึงทำให้ราคาพระแท้ๆ ลดลงมาระดับพันต้นๆ ดังกล่าวแล้ว

ดังนั้น ในช่วงนี้ ใครที่สนใจสะสมพระเครื่องแท้ๆ ไม่ต้องลุ้นมาก ราคาถูก มีอยู่ทั่วไป แต่ต้องดูเป็นนะครับ ไม่งั้นอาจเจอ พระคัดทิ้ง แทนพระแท้ได้ครับ

เพราะ ธรรมชาติของการปล่อยของนักสะสม เขาก็จะเลือกองค์ที่ชอบน้อยที่สุดออกมาก่อน

ดังนั้น จึงต้องดูเป็น และรอจังหวะดีๆ ครับ

แต่พระแท้กำลังออกมาในตลาดค่อนข้างมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาวะเศรษฐกิจครับ

ผู้ซื้อเลือกหาได้ กำหนดประเภทที่ต้องการได้ และต่อรองราคาได้ครับ

จึงขอให้สนุกกับการสะสมพระแท้ครับ

สวัสดีครับ



บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น