วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดการแยกพระกรุออกจากพระโรงงาน : ตอนที่ ๕ พระเนื้อชินเงิน

         มีการเกิดสนิมน้อย มีการผุกร่อนจากผิวนอกในลักษณะการระเบิดออกเป็นจุดๆ โดยเฉพาะผิวที่อยู่ด้านนอกสุด จนเหลือแกนในเป็นเม็ดๆ
พระกรุเนื้อชินเงิน เป็นพระเนื้อโลหะที่พบตั้งแต่สมัยทวาราวดีเป็นต้นมา แต่มักมีน้อย และไม่เป็นที่นิยมมากนัก จึงถือว่าเป็นพระระดับรองๆ หรือเป็นพระทดแทนเนื้ออื่นๆ เมื่อหาเนื้อหลักไม่ได้

องค์ประกอบของพระเนื้อชินเงินนั้น ดูเหมือนจะเป็น


  • โลหะผสมหลายชนิด
  • ไม่มีทอง และทองแดง
  • จึงมีสีเทาถึงเทาดำ
  • มีความแข็งมากกว่าเนื้อสำริด และแข็งกว่าเงิน

มีการเกิดสนิมน้อย มีการผุกร่อนจากผิวนอกในลักษณะการระเบิดออกเป็นจุดๆ โดยเฉพาะผิวที่อยู่ด้านนอกสุด จนเหลือแกนในเป็นเม็ดๆ


พระกันทรวิชัย ยุคทวาราวดี เนื้อชินเงิน หนัก ๘๐๐ กรัม

อายุกว่า ๑๓๐๐ ปี จึงมีสภาพการระเบิดทั้งองค์


ภาพใกล้ จะเห็นผิวที่เหลือของเนื้อชินเงินหลังกว่าพันปีของการกร่อน


พระบูชายุคลพบุรี เนื้อชินเงิน อายุประมาณพันปี



พระร่วงยืน ลพบุรี ชินเงิน สภาพเกือบสมบูรณ์ มีการกร่อนเล็กน้อย


พระบูชายุคทวาราวดี ชินเงิน ศิลปะคุปตะ

มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์

หรือ ทำให้มีลักษณะกร่อนเป็นแนว ที่สังเกตได้ง่าย ถ้ายิ่งเก่ามาก จะยิ่งระเบิดมาก ทั้งองค์ก็มี

ลักษณะสำคัญที่ต้องสังเกตคือ


  • ผิวปรอทหรือพรายเงิน
  • สนิมตีนกา เป็นเม็ดดำๆละเอียดยิบ
  • ทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนกัน

แต่พรายเงินอาจหมดไปในพระที่เก่ามากๆ ที่จะต้องไปดูการระเบิดแบบธรรมชาติของผิว

ลักษณะพระโรงงานที่พบก็มีการทำเลียนแบบเนื้อสีเทาดำ

ที่ส่วนใหญ่ทำจากโลหะประเภทตะกั่ว แล้วบิดหรือราดกรดให้มีการปริแตก

ที่สามารถตรวจจากน้ำหนัก และขีดบนกระดาษขาว ถ้าเป็นตะกั่วจะออกดำแบบดินสอดำ

จึงสามารถสังเกตได้ง่าย จากเหลี่ยมมุมการแตกตามธรรมชาติ และการแกะให้ดูเหมือนการแตก

และโดยเฉพาะการอบให้แตกนั้น ยิ่งดูง่ายขึ้นไปอีก จึงไม่ซับซ้อน และไม่น่าเป็นกังวลที่จะทำให้เกิดความสับสน

และพระกลุ่มนี้ก็เป็นพระรองๆ ราคาต่ำ ฝีมือ หรือความพยายามในการปลอมจึงไม่สูงนัก ไม่น่าเป็นกังวลอะไร

ขอให้สังเกตตามตัวอย่างที่แสดงให้ดูครับ ไม่น่าจะพลาด

ขอให้โชคดีครับ

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น