ประวัติการค้นพบ พระร่วงหลังลายผ้า กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันถึงพระร่วงเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงกันต่อ และพระร่วงกรุนี้ก็เป็นพระร่วงกรุแรกที่แตกกรุออกมา นั่นก็คือ พระร่วงกรุวัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี หรือที่เรียกกันว่าพระร่วงหลังลายผ้า ที่มีความนิยมและมีความสวยงามทั้งทางด้านศิลปะและเนื้อผิวสนิมแดงครับ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญ สันนิษ ฐานว่าเริ่มสร้างตั้งแต่ครั้งสมัยขอม และต่อมาได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาโดยตลอดจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ในการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญคือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุมีโบราณสถานที่สำคัญคือองค์พระปรางค์องค์ใหญ่ที่ก่อด้วยศิลาแลง พร้อมทั้งมีลายปูนปั้นประดับองค์พระปรางค์นอกระเบียงคดชั้นใน ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ขององค์ปรางค์ประธาน นอกนั้นเป็นสิ่งที่ก่อสร้างและสถาปัตยกรรม เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ที่องค์พระปรางค์องค์ใหญ่ได้มีการขุดพบพระพุทธรูปและพระเครื่องมากมาย ในประมาณปีพ.ศ.2430 โดยมีการลักลอบเข้าขุดหาสมบัติกันก่อน และพบพระเครื่องเข้าโดยบังเอิญ พระเครื่องที่สำคัญก็คือพระร่วงเนื้อชินสนิมแดง หลังลายผ้า หลังจากนั้นในปีพ.ศ.2455 ก็ยังมีการพบพระร่วงหลังลายผ้าอีกครั้ง และในปีพ.ศ.2485 ก็ยังมี ผู้พบพระร่วงหลังลายผ้าขึ้นมาอีก ซึ่งก็พบในบริเวณใกล้ๆ กับที่เคยพบในครั้งแรกๆ พระร่วงที่พบนั้นพระส่วนใหญ่จะเป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ที่พบเป็นเนื้อชินเงินบ้างก็มีแต่ก็ไม่มากนัก
พระร่วงหลังลายผ้านี้นอกจากที่พบที่องค์พระปรางค์แล้ว ในปี พ.ศ.2515 ก็ได้มีการพบอีกครั้งที่บริเวณร.ร.ช่างกลลพบุรี ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นโบราณสถานเก่า แต่ได้เสื่อมสภาพลง พระร่วงที่พบที่ร.ร.ช่างกลนี้พบเป็นเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงทั้งหมด พระร่วงที่พบครั้งหลังจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "พระร่วงกรุช่างกล" พระร่วงกรุนี้จะมีรายละเอียดเช่นเดียวกับพระที่พบที่องค์พระปรางค์ ผิดกันที่ผิวสีสนิมจะออกแดงเข้มกว่าสักเล็กน้อย และพระส่วนมากจะมีความบางมากกว่าของกรุองค์พระปรางค์ สันนิษฐานว่าคงสร้างในยุคเดียวกันแต่มีการแยกบรรจุกรุไว้
พระร่วงของทั้งสองกรุนี้ที่ด้านหลังจะมีเอกลักษณะเป็นลายผ้าหยาบๆ ที่ด้านหลังทุกองค์ จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่า "พระร่วงหลังลายผ้า" และถือเป็นพระร่วงกรุแรกที่มีการพบในประเทศไทย พระที่มีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกันที่พบในครั้งต่อๆ มาจึงเรียกกันว่าพระร่วงตามๆ กันมา แต่จะมีชื่อต่อท้ายให้รู้ว่าเป็นพระของกรุใด พระร่วงหลังลายผ้าผิวสนิมจะมีสีออกแดงอมส้ม ในบางส่วนที่เข้มก็จะออกแดงอมม่วง แซมด้วยสนิมไขขาว มีรอยแตกใยแมงมุมเช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผิวสนิมแดงที่ขึ้นเป็นปื้นปกคลุมทั่วทั้ง องค์พระ
จากการขุดพบอยู่หลายครั้ง จึงทำให้พบพระร่วงหลังลายผ้ามีจำนวนมากกว่าพระร่วงหลังรางปืน แต่ในปัจจุบันก็หาพระแท้ๆ ยากมากครับ และในวันนี้ผมได้นำรูป พระร่วงหลังลายผ้า ลพบุรี มาให้ชมกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น