จึงเป็นที่มาของคำว่า "คุ้ยขยะ" ที่แปลว่าการไปเลือกหาดูพระแท้จากกองหรือแผงพระที่ส่วนใหญ่เป็น "ของปลอม" ที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษ กว่าจะได้ของจริงมา แต่ก็อาจจะได้ของดี ราคาถูก (จากราคาเป็น หมื่น เป็นแสน เป็นล้านบาท ในราคา สิบ หรือ ร้อยบาท หรืออย่างมากก็เป็นพันบาท)
ตั้งแต่ผมมีโอกาสได้ไปเรียนรู้ระบบตลาดพระเครื่อง ผมจำเป็นต้องรับรู้ และหัดเรียนภาษาที่ "เซียน" เขาใช้สื่อความหมายกันในวงการ ที่ถือว่าเป็นภาษาที่ค่อนข้างสุภาพ เพราะเขาจะใช้คำที่อ้อมๆ และนิ่มนวล เพื่อสงวนท่าที และถนอมน้ำใจกันอย่างเป็นปกติ ดังเช่น
เมื่อจะพูดอย่างสุภาพ ที่มีความหมายว่า “ของปลอม” ก็จะมีตั้งแต่
“ของเล่น” “ของทำใหม่” “งานฝีมือ” “ของย้อนยุค” “เนื้อไม่ถึง” “พิมพ์ไม่ครบ” “ตำหนิไม่ครบ” "อายุไม่ถึง"
แต่เมื่อไม่เกรงใจ หรือลับหลัง ก็อาจมาแอบพูดกันว่า “เก๊ตาเปล่า” หรือ “ปลาร้า” หรือ “ขยะ”
จึงเป็นที่มาของคำว่า "คุ้ยขยะ" ที่แปลว่าการไปเลือกหาดูพระแท้จากกองหรือแผงพระที่ส่วนใหญ่เป็น "ของปลอม" ที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษ กว่าจะได้ของจริงมา แต่ก็อาจจะได้ของดี ราคาถูก (จากราคาเป็น หมื่น เป็นแสน เป็นล้านบาท ในราคา สิบ หรือ ร้อยบาท หรืออย่างมากก็เป็นพันบาท)
แต่ถ้าจะชม ก็จะใช้คำว่า “แท้ตาเปล่า” หรือ “ของดีๆทั้งนั้น”
เมื่อมีใครขอให้ดูให้ และมั่นใจว่าเป็น “ของปลอม” ก็อาจใช้คำว่า “ไม่ชอบ” หรือเลี่ยงตอบไปว่า “ดูไม่เป็น” “เรื่องนี้ไม่มีความรู้”
เมื่อจะขอให้เซียนช่วยดูพระ (ที่มักเป็นของปลอม) นั้น เขามักจะใช้คำว่า "ช่วยตีเก๊ให้หน่อย" ที่ถือว่าเป็นการถ่อมตัวเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก "เซียน"
ในการต่อรองราคา หรือแลกเปลี่ยน ก็จะมีคำแบบวัยรุ่นว่า “โดน” ที่แปลว่า “ตกลง” หรือ “ไม่โดน” แปลว่า “ไม่ตกลง”
แต่คำว่า “โดน” ก็ยังใช้ความหมายของการทำงานที่ “ผิดพลาด” หรือ “โดนหลอก” หรือ “โดนต้ม” ก็ได้
การแลกเปลี่ยนหรือต่อรอง ก็อาจจะใช้คำว่า “ตีแลก” หรือ “ให้หยิบ” พระของตน หรือ “ขอหยิบ” พระของคู่กรณี
เมื่อมีคนเชิญชวนให้เช่าพระ แต่ไม่อยากเช่า ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ก็จะมีประโยคว่า “ไม่มีของชอบ” และผู้เชิญชวนมักใช้คำว่า “ของแท้ดูง่าย” ทั้งนั้น โดยไม่จำเป็นต้องมีของแท้สักชิ้นเดียว ก็ได้
สำหรับคำที่ใช้อธิบายลักษณะพระนั้นมีมากมาย ที่ผมก็กำลังเรียนอยู่เลย ที่ผมพอจะเข้าใจบ้างก็ได้แก่
พระกรุ คือ พระที่เคยถูกเก็บไว้ในหลุม หรือ ในเจดีย์ หรือในที่ที่ใช้เก็บรวบรวมพระ ที่ส่วนใหญ่จะหมายถึงพระโบราณ
พระเกจิอาจารย์ คือ พระที่ทำขึ้นใหม่ แบบพระเครื่อง เหรียญ วัตถุมงคล ที่สร้างโดยพระที่มีชื่อเสียง
พระบูชา คือ พระขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะใช้แขวนกับสร้อยคอ หรือ พกพาได้
ห่มผ้าเหลือง คือการนำพระไปเลี่ยม หรือชุบทอง
นำพระไปขึ้นคอ คือ การนำพระเครื่องไปใช้งานตามพุทธคุณที่มี หรือที่เชื่อกัน
พระที่มีประสบการณ์ คือ องค์พระหรือรุ่นพระ ที่มีผู้เชื่อถือ และเคยได้ผลเชิงประจักษ์มาแล้ว
การจับพลังพระ คือ การตรวจสอบโดยผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการตรวจสอบพลัง "พุทธคุณ" ในพระเครื่องแต่ละองค์ (ที่ตรวจสอบว่าผ่านพิธีการปลุกเสกมามากน้อยแค่ไหน)
พระสวย คือ พระที่มีต่างๆครบตามพิมพ์มาตรฐาน (โดย บางครั้งไม่เกี่ยวกับความสวยงามของ "พุทธศิลป์" ) แบบ "เนื้อดี พิมพ์นิยม"
เนื้อดี คือ พระที่มีมวลสาร หรือวัสดุที่ตรงตามที่มีในประวัติการสร้างพระ ไม่มาก หรือน้อยเกินไป
พิมพ์นิยม คือ ลักษณะพุทธศิลป์ที่ทำให้พระมีราคาสูง โดยอาจไม่เกี่ยวกับความสวยงามขององค์พระ
พิมพ์ไม่นิยม คือ พุทธศิลป์ที่มีราคาต่ำ อาจมีน้อย หรือมากเกินไป ที่การควบคุมราคาทำได้ยาก ที่เป็นประเด็นเชิง "พุทธพานิช"
พระไม่สวย คือ พระที่ตำหนิหรือพิมพ์บางส่วนหายไป หรือ ไม่มี ทั้งนี้อาจรวมถึงการกร่อนของเนื้อพระมากเกินระดับที่ยอมรับได้ ทั้งโดยธรรมชาติ และการใช้พระ
พระใช้มาแล้ว คือ พระที่มีการกร่อนของผิว หรือเนื้อจากการใช้งานมาพอสมควร
พระที่ไม่ค่อยชอบ คือ พระที่มีลักษณะ หรือราคาไม่ตรงกับที่ตนต้องการ
พระที่ชอบ คือ พระที่ตรงกับความต้องการของตนเอง โดยไม่เกี่ยวว่าเป็นพระแท้ ไม่แท้ ตำหนิครบ ไม่ครบ
เนื้อ คือ วัสดุ หรือ "มวลสาร" ที่ใช้ในการสร้างพระ
มวลสาร คือ ส่วนประกอบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตพระ
พิมพ์ คือ เอกลักษณ์ของพุทธศิลป์ของพระแต่ละรุ่น
ตำหนิ คือ ลักษณะพิเศษที่ต้องมี ของพระแต่ละพิมพ์ แต่ละรุ่น
บวม คือ ลักษณะผิวไม่เรียบของเหรียญ ที่ทำขึ้นใหมีจากการหล่อ แทนการตอก หรือปัมป์ด้วยแม่พิมพ์
กรุแตก คือ การค้นพบพระกรุ
แตกกรุ คือ การได้มาของพระกรุจากที่เก็บไว้ในกรุ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม
สนิม คือ สารประกอบที่เคลือบผิวพระชั้นนอก
ไข คือ สารประกอบที่เคลือบผิวพระชั้นใน ของพระที่ทำจากโลหะ หรือ โลหะผสมที่มีทั้งสารประกอบจากภายนอก และ/หรือ สนิมเดิมที่แปรรูปเป็นสนิมเชิงซ้อนมากขึ้น
แร่ คือ ส่วนประกอบของเนื้อพระที่เป็นเม็ดๆ อาจเป็นทราย หรือ หินแร่ที่เป็นส่วนผสมเฉพาะ ของพระแต่ละกรุ แต่ละแหล่ง
แร่หลุด คือ ร่องรอยของแร่ ที่หลุดหายไป
ล้าง คือ การทำความสะอาดคราบกรุ หรือสนิมบางส่วน ให้เห็นเนื้อพระชัดเจนขึ้น
แห้ง คือ ลักษณะผิวของพระเก่า ที่มีการกร่อนตามพื้นผิว จนทำให้มองดูผิวแล้วรู้สึกว่ามีความชื้นน้อย
เนื้อชิน คือ พระโลหะที่มีส่วนผสมของวัสดุต่างๆ แต่อาจจะมีโลหะบางชนิดเด่นกว่าอย่างอื่น ก็จะเรียกไปทำนองนั้น หรือบางที มีลักษณะเหมือนอะไรก็เรียกอย่างนั้น
นุ่ม คือ ลักษณะของผิวพระที่ดูเรียบมัน
หนึบ คือ ความกลมกลืนของส่วนประกอบต่างๆ บนผิวพระ
เหี่ยว คือ ลักษณะการย่นของผิวพระ ที่มีลักษณะของ การหดตัว การกร่อนเป็นร่องๆ
ตึง คือ ลักษณะของผิวพระที่มีความเรียบ มัน
รอยยุบ คือ ส่วนของพระที่หดตัวเป็นร่องหรือหลุมติ้นๆ
ย่น คือลักษณะการหดตัวของผิวพระเก่า
คราบกรุ คือ ผิวของพระที่อาจมีสารประกอบต่างๆมาเกาะ หรือ เกิดจากการผุพังของวัสดุเดิมเคลือบผิวอยู่
รารัก คือ สารประกอบสีดำที่เกาะแน่นอยู่ที่ผิว โดยเฉพาะพระเนื้อดินที่มีอายุมาก
ราคาเปิด คือ ราคาที่เจ้าของตั้งไว้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ "ระดับ" ของตลาด คุณภาพ และการรับประกัน ที่ผู้ให้เช่า จะต้องรู้ และเข้าใจ ไม่งั้นจะถูกหาว่า "เปืดไม่เป็น"
ราคาซื้อ หรือ ราคาปืด คืออราคาที่ตกลงกันได้
การประกันให้เลย มักเป็นคำพูดเพื่อเอาใจผู็ซื้อ (เช่าพระ)มากกว่าที่จะเป็นจริง (ยกเว้นบางแห่ง และบางคน)
นอกจากนี้ยังมีประเภทของพระเครื่อง และพระกรุ ที่ผมกำลังเรียนอยู่ วันหลังจะนำมาเล่าให้ฟังครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น